ในปัจจบันสายแฟชั่นคงคุ้นตากันดีกับกระเป๋าทรง trunk หรือ Trunk Bag ที่มักมีทรงเหลี่ยมแบนทั้ง 6 ด้าน มีหลากหลายขนาดตั้งแต่ใบเล็กขนาดมือถือ ไปถึงขนาดใหญ่ที่สามารถใส่สิ่งของได้มากมาย แต่หากเล่าย้อนกลับไปเมื่อกว่า 170 ปีก่อน กระเป๋าทรงหีบหลังแบนแบบนี้คือนวัตกรรมใหม่ที่บุกเบิกโลกแห่งแฟชั่นและการขนส่งไปตลอดกาล
Trunk Bag หรือ หีบใส่ของแต่กาลก่อน
หีบสมบัติทั้งหลายที่คนยุคก่อนศตวรรษที่ 18 คุ้นชินกันมาช้านาน มักทำจากไม้ทั้งลำต้น ด้วยการขุดแซะเนื้อไม้ด้านในออก เก็บทรงโค้งนูนไว้เป็นฝาปิดด้านบน เพื่อป้องกันการเกิดน้ำขังกรณีฝนตก ซึ่งอาจทำให้สิ่งของด้านในเกิดความเสียหายจากความชื้นในระหว่างการขนส่งได้ มันจะไม่เป็นปัญหาเลยหากช่วงเวลาเดินทางมายุคสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ผู้คนนิยมเดินทางย้ายถิ่นฐานกันมากขึ้น
การกำเนิดของ Louis Vuitton
เด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศสวัย 16 ปีนามว่า Louis Vuitton เดินเท้าจากชนบทบ้านเกิดมายังเมืองหลวงปารีสในปี 1837 และได้ฝึกงานกับช่างทำหีบชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมเดินทางด้วยรถม้า เรือ และรถไฟ แน่นอนการยังไม่มีการระบบลำเลียงสัมภาระที่ดี เกิดปัญหาหีบของแตกหักเสียหาย อีกทั้งเจ้าหีบทรงหลังโค้งก็แสนจะกินที่
ด้วยความสามารถด้านการทำหีบที่โดดเด่นของ Louis Vuitton จนมีโอกาสได้เป็นผู้ทำหีบให้กับพระชายาของนโปเลียนที่ 3 ที่ต้องการหีบที่เหมาะสมกับการเก็บเสื้อผ้าสุดหรูหราราคาแพง ทำให้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงในหมู่เชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงที่ต้องการหีบใส่ของ และด้วยความต้องการและการใช้งานของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ทำให้เขากลายเป็นผู้บุกเบิกการ customize หีบเพื่อให้เหมาะสมกับเจ้าของแต่ละคนไปโดยปริยาย ยิ่งทำให้หีบที่เขาเป็นผู้สร้างได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และหลังจากที่เขาสั่งสมประสบการณ์การทำหีบมากว่า 17 ปี เขาได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ โดยแยกตัวมาเปิดกิจการเป็นของตนเองในที่สุด
กระเป๋าหีบ: สินค้าสร้างชื่อของ Louis Vuitton
กระเป๋าหีบหลังแบนเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1858 โดยเปลี่ยนหีบหลังโค้งให้เป็นหลังแบน และหุ้มหีบด้วย canva ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของการเดินทางขนส่ง เพราะนอกจากจะสามารถนำหีบมาวางซ้อนทับกันทำให้ง่ายต่อการลำเลียง และเพิ่มพื้นที่ให้กับการขนสัมภาระมากยิ่งขึ้น ยังขจัดปัญหาเรื่องความชื้นจากน้ำขังด้วย canva อีกทั้งยังมีการออกแบบรายละเอียดแต่ละจุดให้มีความสวยงาม สอดคล้องกับการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วย
ด้วยการเปลี่ยนแปลงจุดเล็ก ๆ สู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้กิจการทำหีบของ Louis Vuitton กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นสูงผู้ที่ต้องการ life style โดดเด่นแต่ต้องมาพร้อมกับ function ในเวลาอันรวดเร็ว
ตัวล็อกที่ไม่อาจปลดล็อก
เมื่อชื่อเสียงการทำหีบของ Louis Vuitton กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มคนชนชั้นสูง แน่นอนว่าสิ่งในหีบย่อมไม่ธรรมดา บางชิ้นมีราคาค่างวดที่สูงลิ่ว กลายเป็นเป้าหมายของเหล่าโจรขโมย ทำให้ George Vuitton ลูกชายคนเดียวของ Louis Vuitton ได้ประดิษฐ์ตัวล็อก Two - Tumbler ที่ไม่สามารถปลดล็อกได้ เป็นนวัตกรรมสุดล้ำที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระเป๋า LV นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ปี 1886 George ได้คิดค้นตัวล็อกจากการต่อยอด Tumbler ที่ปกติมีแค่สปริง 1 ชั้น มาเป็นแบบ 2 ชั้น โดยจะปลดล็อกได้นั้นตัวสปริงทั้ง 2 ต้องถูกยกขึ้นตามลวดลายลักษณะของลูกกุญแจที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะ ทำให้ยากต่อการสะเดาะ อีกทั้งตัวล็อกทำจากทองเหลือง เสริมความทนทานยากต่อการทำลาย นอกจากนี้หากเจ้าของหีบมีหีบหลายใบ แต่ไม่อยากถือลูกกุญแจหลายดอก ก็สามารถขอให้ LV สร้างหีบหลายใบที่สามารถเปิดได้ด้วยกุญแจดอกเดียวได้อีกด้วย
ด้วยความพิเศษของ Two -Tumbler นี่เอง ตระกูล Vuitton ได้ตัดสินใจทำการจดสิทธิบัตร และมีการป่าวประกาศเพื่อท้าพิสูจน์ Harry Houdini นักมายากลชาวอเมริกันที่เชี่ยวชาญด้านการหลบหนี ให้มาซ่อนตัวในหีบและปลดล็อก Two-Tumbler แต่นักมายากลชื่อดังก็ไม่ได้รับคำท้าแต่อย่างใด ทำให้ประสิทธิภาพของ Two-Tumbler เป็นที่เลืองลือและไร้ข้อกังขา โดยในปัจจุบันถูกนำมาต่อยอดพัฒนาสู่ Five - Tumbler ในกระเป๋ารุ่นต่อ ๆ มา
จากหีบใส่ของหลังโค้งที่ดูเทอะทะ สู่ทรงกระเป๋าทรงหีบหลังแบนทรงพลังที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยนวัตกรรมและการออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยการ customize ในทุกมิติ เป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้กับ LV มาอย่างยาวเกือบ 200 ปี
